ไขข้อสงสัย TGAT, TPAT และ A-Level คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?

TGAT, TPAT และ A-Level เป็นข้อสอบสำคัญที่นักเรียนมัธยมปลายใช้เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบ TCAS โดย TGAT วัดความถนัดทั่วไป, TPAT เน้นความถนัดวิชาชีพเฉพาะทาง, และ A-Level ประเมินความรู้เชิงวิชาการ นักเรียนควรตรวจสอบระเบียบการรับสมัครเพื่อวางแผนการเตรียมตัวสอบ.

woman sitting next to table and right hand on ear

ไขข้อสงสัย TGAT, TPAT และ A-Level คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?

สำหรับน้องๆ นักเรียนมัธยมปลายและผู้ปกครองที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย หรือ TCAS (Thai University Central Admission System) อาจจะสับสนกับชื่อข้อสอบต่างๆ ทั้ง TGAT, TPAT และ A-Level ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้ในการยื่นคะแนน วันนี้เราจะมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าแต่ละอย่างคืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร


1. TGAT: การทดสอบความถนัดทั่วไป (Thai General Aptitude Test)

TGAT คือ การสอบวัดความถนัดทั่วไป ไม่เน้นความรู้เชิงวิชาการตามหลักสูตรในห้องเรียน แต่จะเน้นการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต เปรียบเสมือนข้อสอบกลางที่นักเรียนส่วนใหญ่ต้องสอบ เพราะมหาวิทยาลัยส่วนมากใช้คะแนนส่วนนี้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก

TGAT แบ่งออกเป็น 3 ส่วน (คะแนนเต็มส่วนละ 100 รวม 300 คะแนน):

  • TGAT1: การสื่อสารภาษาอังกฤษ (English Communication) – วัดทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
  • TGAT2: การคิดอย่างมีเหตุผล (Critical and Logical Thinking) – วัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์, การแก้ปัญหา, และการใช้เหตุผลในรูปแบบต่างๆ
  • TGAT3: สมรรถนะการทำงาน (Future Workforce Competency) – วัดทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต เช่น การสร้างคุณค่าและนวัตกรรม, การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน, การบริหารจัดการอารมณ์, และการเป็นพลเมืองที่ดี

2. TPAT: การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ (Thai Professional Aptitude Test)

TPAT คือ การสอบวัดความถนัดเฉพาะทางสำหรับวิชาชีพต่างๆ เหมาะสำหรับนักเรียนที่รู้เป้าหมายของตนเองแล้วว่าอยากเข้าศึกษาต่อในคณะหรือสาขาวิชาใดเป็นพิเศษ เนื้อหาข้อสอบจะมีความจำเพาะเจาะจงกับวิชาชีพนั้นๆ

ข้อสอบ TPAT มีทั้งหมด 5 กลุ่มหลัก (คะแนนเต็มวิชาละ 100 คะแนน):

  • TPAT1: วิชาเฉพาะ กสพท – สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ากลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์
  • TPAT2: ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ – สำหรับคณะด้านศิลปกรรม เช่น ทัศนศิลป์, ดนตรี, นาฏศิลป์
  • TPAT3: ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ – สำหรับคณะวิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาที่เกี่ยวข้อง
  • TPAT4: ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ – สำหรับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, มัณฑนศิลป์ และสาขาที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
  • TPAT5: ความถนัดทางครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ – สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์

นักเรียนไม่จำเป็นต้องสอบ TPAT ทุกวิชา เลือกสอบเฉพาะวิชาที่คณะ/สาขาที่ต้องการกำหนด


3. A-Level: การทดสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ (Applied Knowledge Level)

A-Level คือ การสอบวัดความรู้เชิงวิชาการตามหลักสูตรที่ได้เรียนมาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) โดยจะเน้นการนำความรู้ที่เรียนไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา ข้อสอบ A-Level นี้มาแทนที่ข้อสอบ “วิชาสามัญ” เดิม

วิชาที่จัดสอบใน A-Level มีหลากหลาย ครอบคลุมทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ เช่น:

  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (คณิตเพิ่มเติม)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 (คณิตพื้นฐาน)
  • วิทยาศาสตร์ประยุกต์
  • ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา
  • สังคมศึกษา
  • ภาษาไทย
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษาต่างประเทศอื่นๆ (ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, จีน, บาลี, เกาหลี)

นักเรียนจะเลือกสอบเฉพาะวิชาที่คณะ/สาขาที่ตนเองต้องการยื่นคะแนนกำหนดไว้


สรุปความแตกต่างในตารางเดียว

ประเภทข้อสอบสิ่งที่วัดใครควรสอบ?
TGATความถนัดทั่วไป (ไม่เน้นเนื้อหาในห้องเรียน)นักเรียนส่วนใหญ่ที่ต้องการยื่นคะแนนเข้าระบบ TCAS
TPATความถนัดเฉพาะทางวิชาชีพนักเรียนที่มุ่งเป้าเข้าคณะเฉพาะทาง เช่น แพทย์, วิศวะ, ครู, สถาปัตย์, ศิลปกรรม
A-Levelความรู้เชิงวิชาการ (เนื้อหา ม.ปลาย)นักเรียนทุกคนที่ต้องใช้วิชาความรู้พื้นฐานยื่นคะแนนตามที่คณะกำหนด

สิ่งสำคัญที่สุด คือ นักเรียนจะต้องตรวจสอบระเบียบการรับสมัครของคณะและมหาวิทยาลัยที่ตนเองสนใจจากเว็บไซต์ myTCAS.com หรือประกาศของมหาวิทยาลัยโดยตรง เพื่อที่จะได้ทราบว่าต้องใช้คะแนนจากข้อสอบใดบ้าง และแต่ละวิชามีสัดส่วนคะแนนเท่าไร จะได้วางแผนเตรียมตัวสอบได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

ใส่ความเห็น